Site icon TARARIN

PRP หน้าใส ปลอดภัย ไร้สารสังเคราะห์

prp หน้าใส

PRP หน้าใส คือ ?

PRP หน้าใส prp ย่อมาจาก Platelet Rich Plasma คือ ส่วนประกอบของเลือดที่ได้มาจากเลือดของคนไข้ที่มีความเข้มข้นของเกร็ดเลือดเป็น 3-8 เท่า ของระดับเกร็ดเลือดปกติ มีระดับเกร็ดเลือดเข้มข้นที่เหมาะสมที่ใช้ในการรักษา โดยจะมี Growth factor ช่วยกระตุ้นการหายของแผล และซ่อมแซมเซลล์ทำให้เซลล์เติบโต

Growth Factor จำนวนมากใน PRP ช่วยทำลายเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และกระตุ้นการฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง เป็นผลให้เกิดการฟื้นฟูผิวและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังอย่างเป็นธรรมชาติ

ขั้นตอนการทำ PRP Face

ระยะเวลาการทำ PRP

สำหรับการฉีด PRP โดยปกติแล้วจะเป็นการฉีดใต้ผิวหน้า ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการฉีดประมาณ 30-45 นาที ก่อนการฉีดจะมีการแปะยาชาก่อนประมาณ 30 นาที และใช้เวลาในการฉีดประมาณ 10-15 นาที วิธีการรักษาแบบ PRP จึงมักจะเหมาะกับผู้ที่มีเวลาน้อย

ก่อนทำและหลังทำ PRP Face ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

ก่อนทำ PRP สิ่งที่คนไข้จะทำต้องเตรียมร่างกายมาให้พร้อม โดยต้องปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

สำหรับหลังการทำ PRP Face สิ่งที่คนไข้ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ต้องปฏิบัติดังนี้

ควรทำ PRP Face กี่ครั้งถึงจะเห็นผล

การทำ PRP บริเวณใบหน้าจะเป็นการกระตุ้นคอลลาเจนให้กับเซลล์ผิวตามธรรมชาติ โดยหลังการรักษาจะไม่เห็นผลโดยทันที แต่จะเห็นผลได้อย่างชัดเจนภายใน 3 เดือน เพื่อการรักษาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นคนไข้ควรทำ PRP Face ซ้ำ 2-3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่าง 4-6 สัปดาห์ แต่สำหรับผู้ที่มีริ้วรอยเป็นอย่างมากแนะนำให้ทำซ้ำ 4-6 ครั้ง จะทำให้เห็นผลและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทำ PRP Face เจ็บไหม ต้องพักฟื้นนานแค่ไหน

สำหรับการทำ PRP คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บเลย เพราะก่อนการรักษาจะมีการทายาชาก่อนประมาณ 30 นาที และเข็มที่แพทย์ใช้ในการรักษาจะเป็นเข็มเบอร์ขนาดเล็กพิเศษ คนไข้จึงจะไม่รู้สึกเจ็บ ซึ่งเมื่อทำการรักษาเสร็จคนไข้สามารถกลับบ้านได้เลย ใช้ชีวิตทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ แต่อาจจะมีอาการบวมนิดหน่อย ประมาณ 1-2 วัน และอาการบวมจะหายได้เองในไม่นาน

ทำ PRP Face ปลอดภัยหรือไม่ ผลลัพธ์เป็นอย่างไร

สำหรับคนไข้ที่กังวลกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย ดังนั้นหัวข้อนี้จะมาไขข้อข้องใจให้กับคนที่กังวล PRP เป็นการรักษาที่นำเลือดของคนไข้เองมาปั่นแล้วฉีดกลับเข้าไป สารดังกล่าวจึงไม่ใช่สารสังเคราะห์ที่สร้างขึ้นมา ดังนั้นการทำ PRP จึงไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงหรืออาการแพ้ใด ๆ ที่จะส่งผลเสียหรือเกิดอันตรายต่อร่างกาย จึงสามารถกล่าวได้ว่าการทำ PRP  ปลอดภัยอย่างแน่นอน

สำหรับผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ PRP จะเห็นผลได้ดังนี้

การทำ PRP ปกติจะเริ่มเห็นผลหลังจากทำไปแล้ว 2-3 สัปดาห์ และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเมื่อครบ 3 เดือน ซึ่งผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ PRP จะช่วยกระตุ้น Collagen ใต้ผิวหนังให้เริ่มสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้ใบหน้าของคนไข้ได้รับการฟื้นฟู กระตุ้น และซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ส่งผลทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์ แกทั้งยังช่วยรักษาสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำจากสิว รักษาหลุมสิว รักษารอยแผลเป็นขนาดเล็ก และช่วยให้รูขุมขนดูกระชับลง

ใครที่ควรทำและไม่ควรทำ PRP Face

สำหรับการทำ PRP Face จะนิยมทำกับกลุ่มคนที่มีปัญหาดังต่อไปนี้

ถึงแม้การทำ PRP Face จะให้ประโยชน์มากมายในการรักษาผิวหน้า แต่การทำ PRP ก็ยังมีข้อจำกัดสำหรับกลุ่มคนที่ไม่สามารถทำได้เด็ดขาด ดังต่อไปนี้

ทำไมต้องทำ PRP ที่ธาราริน

ธารารินคลินิกให้บริการโปรแกรม PRP Face ซึ่งธารารินมีแพทย์ที่ทำการรักษาที่ชำนาญ และมีเทคนิคการฉีดเฉพาะตัว ซึ่งการทำ PRP สามารถทำควบคู่กับการทำทรีทเมนต์อื่น ๆ ได้ เช่นการฉีดวิตามินผิว การผลักวิตามิน ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำ PRP ให้ได้ผลมากยิ่งขึ้น สำหรับลูกค้าที่สนใจธารารินคลินิกขอแนะนำโปรโมชั่นการทำ PRP ดังนี้

โปรโมชั่นรายครั้ง ครั้งละ 3,000 บาท คอร์ส คอร์สละ 15,000 บาท/6 ครั้ง
Exit mobile version